ประวัติบ้านน้้าครกใหม่ ผู้สืบค้นและบันทึกโดย ผอ.ดุสิต ยาใจ
ชาวบ้านน้้าครกใหม่ได้สืบเชื้อสายมาจากชาวเชียงแสน จังหวัดเชียงรายปัจจุบัน ในสมัยนั้นได้ถูกไทยใหญ่-ชาวพม่ารุกราน จึงอพยพหนี โดยกัน 2 ทาง ทางที่ 1 พากันลงเรือลงแพล่องมาตามล้าแม่น้้าโขง ทางที่ 2 บางกลุ่มใช้ช้าง ใช้ม้า ใช้วัว ใช้ควาย เป็นพาหนะ เดินทางมาทางบก พวกที่ล่องเรือ ล่องแพมา ...ก็ได้พากันขึ้นทางบกที่เมืองบ่อแตน
เมืองเก่นท้าว แขวงลานช้างของประเทศลาว และได้ตั้งถิ่นอยู่ที่นั้น
*บางกลุ่มได้อพยพล่องใต้ไปอยู่ที่อ้า เภอลับแล อ้าเภอตรอนบ้านน้้าอ่าง จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่อ้าเภอลี้จังหวัดล้าพูน อ้าเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี (หลักฐานที่พบจากพระพุทธรูปในพระวิหารอยู่หน้าพระประธาน สร้างด้วยไม้อักขระเป็นภาษาขอม ผู้สร้างคือ แสนมโนนัย แสนเป็นยศต้าแหน่งในสมัยนั้นสร้างมาประมาณ 300 - 500 ปี)
ผู้น้ากลุ่มขณะนั้นเห็นว่าที่ท้ามาหากินตรงนั้นไม่เพียงพอ จึงแยกจากกลุ่มใหญ่ ได้
ชักชวนกันอพยพพากันเดินทางมาถึงเมืองเลย (จังหวัดเลยปัจจุบัน) ก็ได้ตั้งรกรากกันอยู่แห่งนั้นชั่ว คราว แต่ก็จ้าเป็นต้องอพยพต่อไป เพราะเหตุว่าถูกพวกขอมมารุกราน จึงพากันอพยพเดินทางมาเรื่อยๆ เพื่อมาตั้งหลักใหม่ มาจนถึงบ้านศรีสะเกษ อ้าเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
ในขณะนั้นภายในกลุ่มที่อพยพมาด้วยกันได้มีการแยกกลุ่ม เพื่อหาที่ใหม่ แหล่งที่
อุดม สมบูรณ์ จนมาถึงบ้านดอนไชยใต้ อ้าเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เห็นว่าแห่งนี้มีแหล่งน้้า หนองน้้า ที่ท้ามาหากินอุดมสมบูรณ์ แต่ก็อยู่มาระยะหนึ่งก็ถูกขับไล่จากคนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ก่อนแล้ว
ขณะนั้นที่อยู่อาศัยก็ขาดแคลนน้้า จึงพากันเดินทางขึ้นมาทางเหนือเพื่อหาที่อยู่ใหม่ อีก จนมาถึงบ้านน้้าปั้ว อ้าเภอเวียงสา มีพวกชาวลาวที่มาอาศัยอยู่ก่อนแล้วจึงมีเรื่องทะเลาะข้อพิพาทกันบ่อยครั้ง อยู่ไม่ได้จึงพากันอพยพย้ายถิ่นฐานขึ้นมาทางเหนืออีก จึงได้พากันมาพักชั่วคราวที่หมู่บ้านวังม่วง อ้าเภอเวียงสาปัจจุบัน
ขณะนั้นมีผู้น้ากลุ่มที่เก่งกล้ามาก ผู้หนึ่งชื่อว่า หลวงหาญ (เจ้าหลวงข้อมือเหล็ก) มีอยู่วันหนึ่งมีพ่อเฒ่าอิน แม่เฒ่าสา ได้ออกหาของป่า หาของกิน ก็มาพบแหล่งน้้าที่ป่าละเมาะแห่งหนึ่ง เห็นหนองน้้าแห่งนี้กว้างใหญ่ มีกุ้ง หอย ปู ปลา ชุกชุมมาก จึงพากันมาบอก
หลวงหาญ หรือเจ้าหลวงข้อมือเหล็ก กับพวกที่อพยพมาด้วยกัน ว่าพบแหล่งน้้าใหญ่ ให้พากันอพยพมาอยู่ใกล้หนองน้้าใหญ่แห่งนี้ หลวงหาญ พร้อมกับผู้อพยพได้พากันอพยพมา
จึงตั้งชื่อหนองน้้าแห่งนี้ว่า “หนองแซ็ง” ซึ่งมีมีสัตว์น้้ามากมาย ผู้ที่ได้อพยพมาต่างก็ท้ามาหากิน ได้บุกเบิกป่าละเมาะ ท้าไร่ ท้านา ท้าสวน ท้ามาหากินด้ารงชีพอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
ในสมัยผู้ครองนครน่านได้ย้ายแคว้นมาจากเมืองปัว มาตั้งฐานเมืองใหญ่อยู่ที่พระธาตุภูเพียง แช่แห้ง ชาวเชียงแสนบางกลุ่มมาสวามิภักดิ์ต่อผู้ครองนครน่านได้พาพวกตั้งถิ่นฐาน-ที่บ้าน พญาวัด บ้าน
สวนตาลตอนล่าง บางกลุ่มขึ้นไปอยู่เหนือจังหวัดน่านมีบ้านผาขวาง บ้านดอนแก้ว อ้าเภอท่าวังผา บ้านดอนแท่น อ้าเภอเชียงกลาง กลุ่มที่อยู่ใกล้หนองแซงมาบุกเบิกป่าละเมาะ ท้าไร่นา สวน ด้ารงชีพ ให้มั่นคงและเปลี่ยนชื่อว่า บ้านน้้าครกหนองแซ่ง
ต่อมาบ้านเมืองมีการพัฒนา มีการเปลี่ยนแปลง เจริญก้าวหน้า จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า
“บ้านน้้าครกใหม่” มาจนถึงปัจจุบัน
ประวัติ บ้านดอนเจริญ หมู่ที่ 6
บ้านดอนเจริญได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านโดยแยกจากบ้านน้้าครกใหม่เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2519 ผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อ นายถวิล แสงหล้า เนื้อที่ของหมู่บ้านประมาณ 54 ไร่ พื้นที่ท้าการเกษตร
ประวัติบ้านน้้าครกใหม่พัฒนาหมู่ที่ 9
เดิมเป็นบ้านน้้าครกใหม่หมู่ที่ 4 แยกเมือง 24 พฤษภาคม 2543 และก็ได้ตั้งชื่อ เป็นบ้านน้้าครกใหม่พัฒนา หมู่ที่ 9 ผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อนาย เนื้อที่ของหมู่บ้านประมาณ ไร่ พื้นที่ท้าการเกษตร
ประวัติแม่น้้าครก
ตามชื่อน้้าที่ล้อมรอบหัวท้ายหมู่บ้าน กาลเวลาผ่านไปน้้าเริ่มหักเหเปลี่ยนทางสายน้้าเก่าจึงเกิดขังเป็นหนองบึง เมื่อน้้าไม่ไหลออกกลายเป็นคลองน้้าโค้งเป็นรูปครกต้าพริกมีน้้าขังอยู่ จึงได้ชื่อว่าน้้าครก ต่อมาจึงได้มาท้าการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านน้้าครกใหม่
บางกลุ่มได้อพยพล่องใต้ไปอยู่ที่อ้าเภอ ลับแล อ้าเภอตรอน บ้านน้้าอ่าง จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่อ้าเภอลี้จังหวัดล้าพูน อ้าเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี หลักฐานที่พบจากพระพุทธรูปในพระวิหารอยู่หน้าพระประธาน สร้างด้วยไม้อักขระเป็นภาษาขอม ผู้สร้างคือ แสนมโนนัย แสนเป็นยศต้าแหน่งในสมัยนั้นสร้างมาประมาณ 300 - 500 ปี
ภาพวาดฝาผนังวัดน้้าครกใหม่ เป็นภาพพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า และภาพวาดประวัติของหมู่บ้านน้้าครกใหม่ ชาวเชียงแสน โดยจินตนาการจากท่านพระครูอาธร นันทวัฒน์ เจ้าอาวาสน์วัดน้้าครกใหม่ จากการได้รับค้าบอกเล่าสืบต่อกันมา เมื่อพ.ศ. 2539 และเป็นผู้ริเริ่มการก่อสร้างพระอุโบสถแห่งนี้
แหล่งที่มาข้อมูล : บันทึกโดยพ่อแสน ปันสุยะและผู้เฒ่าผู้แก่บ้านน้้าครกใหม่ที่ร่วมกันบันทึกไว้
ค้นพบในหีบเหล็กของคุณแม่ต่อมแก้ว ปันวงค์(เสียชีวิต)เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2548 ลูกหลานแม่ต่อมแก้ว ได้มอบ
ให้พ่ออาจารย์วิเชียร ยาใจ เก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานของหมู่บ้านตลอดไป
ประวัติชุมชน (หมู่ที่ 4) บ้านน้้าครกใหม่
บ้านน้้าครกใหม่มีต้านานเล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน ได้สืบเชื้อสาย มาจากชาวเชียงแสนจังหวัดเชียงรายปัจจุบัน ได้ถูกไทยใหญ่พม่ารุกรานจึงอพยพหนีลงเรือ - แพล่องมาตามล้าน้้าโขง บางกลุ่ม ใช้ช้าง - ม้า วัว ควาย เดินทางเป็นพาหนะทางบกที่เมืองบ่อแตน เมืองแก่นท้าวแขวงลานช้างของประเทศลาวได้ตั้งถิ่นฐานที่นั่น
ผู้น้ากลุ่มเห็นว่ามีการท้ามาหากินไม่เพียงพอ จึงต้องแยกจากกลุ่มใหญ่อพยพเดินทางถึงเมืองเลยได้พักอยู่ชั่วคราวจ้าเป็นอพยพต่อไป เพราะเหตุที่ถูกพวกขอมขับไล่รุกราน การเดินทางย้อนตั้งหลักใหม่ มาจนถึงบ้านศรีสะเกษ อ. นาน้อย จ. น่าน
ขณะนั้นภายในกลุ่มมีการแยกตัวหาที่อยู่ที่อุดมสมบูรณ์ จนมาถึงบ้านดอนชัยใต้ อ.เวียงสา อยู่ระยะหนึ่งก็โดนขับไล่
ขณะนั้นที่อาศัยก็ขาดแคลนน้้า จึงพากันเดินทางหาที่อยู่ใหม่จนมาถึงบ้านน้้าปัว อ. เวียงสาสา มี พวกชาวลาวมาอาศัยอยู่ก่อน มีเรื่องข้อพิพาทกันหลายครั้งทั้งกลุ่มย้ายกันขึ้นมาทางเหนือได้พักชั่วคราวที่หมู่บ้านวังม่วง .เวียงสา
ขณะนั้นผู้น้ากลุ่มขณะนั้นมีชื่อว่า หลวงหาญ (เจ้าหลวงข้อมือเหล็ก) วันหนึ่งมีพ่อเฒ่าอิน - แม่เฒ่าสาได้ออกละเมาะมีกุ้ง หอย ปู ปลา แม่น้้ากว้างใหญ่ มีปลาชุมจึงกลับมาบอกหลวงหาญและพวกพากันอพยพมาอยู่ใกล้หนองน้้าใหญ่และให้ชื่อว่าหนองแซง สืบกันมาทุกวันนี้
ในแคว้นผู้ครองนครน่านได้มาจากเมืองปัว มาตั้งฐานเมืองใหญ่อยู่ที่พระธาตุภูเพียง แช่แห้ง ชาวเชียงแสนบางกลุ่มมาสวามิภักดิ์ต่อผู้ครองนครน่านได้พาพวกตั้งถิ่นฐาน-ที่บ้าน พญาวัด บ้านสวนตาลตอนล่าง บางกลุ่มขึ้นไปอยู่เหนือจังหวัดน่านมีบ้านผาขวาง บ้านดอนแก้ว อ้าเภอท่าวังผา บ้านดอนแท่น อ้าเภอเชียงกลาง กลุ่มที่อยู่ใกล้หนองแซงมาบุกเบิกป่าละเมาะ ท้าไร่นา สวน ด้ารงชีพ ให้มั่นคงและเปลี่ยนชื่อว่า บ้านน้้าครกหนองแซ่ง
ประวัติแม่น้้าครก
ตามชื่อน้้าที่ล้อมรอบหัวท้ายหมู่บ้าน กาลเวลาผ่านไปน้้าเริ่มหักเหเปลี่ยนทางสายน้้าเก่าจึงเกิดขังเป็นหนองบึง เมื่อน้้าไม่ไหลออกกลายเป็นคลองน้้าโค้งเป็นรูปครกต้าพริกมีน้้าขังอยู่ จึงได้ชื่อว่าน้้าครก ต่อมาจึงได้มาท้าการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านน้้าครกใหม่
บางกลุ่มได้อพยพล่องใต้ไปอยู่ที่อ้าเภอ ลับแล อ้าเภอตรอน บ้านน้้าอ่าง จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่อ้าเภอลี้จังหวัดล้าพูน อ้าเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี หลักฐานที่พบจากพระพุทธรูปในพระวิหารอยู่หน้าพระประธาน สร้างด้วยไม้อักขระเป็นภาษาขอม ผู้สร้างคือ แสนมโนนัย แสนเป็นยศต้าแหน่งในสมัยนั้นสร้างมาประมาณ 300 - 500 ปี
ภาพวาด (วัด) จากการจิตนาการนึกตรึกตรองได้รับค้าบอกเล่าจากท่านพระครูองศ์ปัจจุบันและเป็นผู้ริเริ่มการก่อสร้างพระอุโบสถนี้(พระครูอาทร นันทวัฒน์) วาดเมื่อ พ.ศ. 2539